ขั้นตอนการจัดงานศพ

งานฌาปนกิจเป็นงานรำลึกถึงไว้อาลัยแด่บุคคลอันเป็นที่รักจากไปครั้งสุดท้าย ดังนั้นจึงมีการจัดงานศพและงานฌาปนกิจขึ้น เพื่อทำพิธีทางศาสนา การจัดงานศพแบบไทย ผู้จัดงานจะต้องจัดเตรียมอะไรบ้าง

ลำดับขั้นตอนในการเตรียมการจัดงานศพและแจกที่ระลึกงานฌาปนกิจ

การเกิดแก่เจ็บตาย เป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลกก็มีการเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งสิ้น แต่หากเป็นคนในครอบครัวคนที่เรารักมาจากไป จะทำใจอย่างไรบ้างไม่ให้ทุกข์จนไม่มีสติในการเดินหน้าใช้ชีวิตต่อ ไปดูกันเลยดีกว่า

  1. การแจ้งตายเพื่อดำเนินเรื่องทำพิธีทางศาสนาอย่างถูกต้อง
    หลังจากที่ทางญาติผู้เสียชีวิตทราบเรื่องเรียบร้อยแล้ว ก่อนจัดงานพิธีจะต้องทำการแจ้งตายที่สถานีตำรวจ เพื่อยืนยันว่าผู้เสียชีวิตถึงแก่กรรมแล้วจริงๆ โดยทางเจ้าหน้าที่จะต้องไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ออกเอกสาร รับแจ้งตายเรียบร้อยแล้ว แล้วดำเนินการนำศพไปไว้ที่วัดได้เลย ส่วนการทำใบมรณบัตร จะต้องนำเอกสาร รับแจ้งตายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หนังสือรับรองการตายจากโรงพยาบาล พร้อมนำทะเบียนบ้าน และเอกสารต่างๆของผู้เสียชีวิตไปยังที่สำนักงานทะเบียนท้องถิ่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ปั๊มจำหน่ายว่าเสียชีวิตเมื่อใดลงในทะเบียนบ้าน และออกใบมรณบัตรให้ญาติผู้เสียชีวิต
  2. นำศพไปวัด
    หากผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล จะมีเจ้าหน้าที่จัดรถขนส่งนำศพไปวัดโดยนิมนต์พระ 1 รูป มาทำพิธี แต่หากว่าผู้เสียชีวิตอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพให้แจ้งไปยังต้นสังกัด จากนั้นจะแจ้งไปทางกองพระราชพิธี สำนักพระราชวังอีกที เพื่อขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและเครื่องประกอบพิธีเกียรติยศต่อไป
  3. การระบายความรู้สึกด้วยการเขียนจดบันทึก
    การเขียนเป็นการระบายอารมณ์อย่างหนึ่ง ที่สามารถพรั่งพรูความรู้สึกทั้งหมดที่มีออกมาได้ และบางครั้งก็ไม่ต้องการให้ใครรับรู้แต่ต้องการระบายความรู้สึกเจ็บปวดความรู้สึกอยู่ภายในใจออกมา การจดบันทึกช่วยได้ เป็นการระบายความทุกข์ความเครียด และความกังวลใจออกมาจากภายในใจที่อึดอัดและเสียใจ ใครที่ไม่ถนัดพูดคุยก็ใช้วิธีการเขียนไดอารี่บันทึกความทรงจำ จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้จากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และยังเป็นการเรียบเรียงข้อมูลความรู้สึกต่างๆ ที่อยู่ภายในใจออกมาเป็นคำ ซึ่งเป็นวิธีการเยียวยาหัวใจอีกรูปแบบหนึ่ง
  4. พิธีรดน้ำศพเป็นพิธีแรกของงานศพไทย
    เป็นความเชื่อตั้งแต่โบราณ การอาบน้ำศพเป็นการชำระร่างกายให้ผู้เสียชีวิตสะอาด จะได้ไปสู่สัมปรายภพที่ดี ซึ่งพิธีรดน้ำศพทางเจ้าภาพและลูกหลาน จะรดน้ำศพก่อน จากนั้นจะมีแขกผู้ร่วมงานคนสนิทเพื่อไว้อาลัยและแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิต
  5. การจัดงานสวดพระอภิธรรม
    จัดตั้งแต่ 1 วัน 3 วัน 5 วันและ 7 วัน หรือในบางกรณีตั้งสวดอภิธรรมศพครบ 100 วันจนถึงวันฌาปนกิจศพ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้จัดงานโดยทางเจ้าภาพนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปมาสวดอภิธรรม 4 จบและถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ซึ่งการสวดอภิธรรมนั้น มีกุศโลบายเพื่อทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต
  6. หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการฌาปนกิจศพ
    หลังจากสวดอภิธรรมคืนสุดท้ายแล้ว จะนำศพไปเก็บไว้ที่สุสานหรือศาลาเพื่อรอทำการฌาปนกิจต่อไป
  7. งานฌาปนกิจศพ
    เมื่อถึง วันฌาปนกิจซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการอำลาคนที่คุณรัก ทางเจ้าภาพจะนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูปในการนำขบวนแห่ศพเวียนรอบเมรุ จากนั้นทางญาติสนิทจะถือเครื่องทองน้อยหรือกระถางธูปหน้าศพ แล้วตามด้วยคนที่ถือรูปถ่ายหน้างานศพส่วน ลำดับต่อๆไปในกระบวนเวียนรอบเมรุก็จะมีลูกหลานเครือญาติของผู้ล่วงลับโดยการแห่ศพเวียนเมรุ 3 รอบ ซึ่ง เวียนรอบที่ 1 หมายถึงอนิจจังคือความไม่เที่ยง เมื่อมีอยู่แล้ววันหนึ่งก็ต้องจากไปเวียนรอบที่ 2 หมายถึงทุกครั้ง คืออาการที่เป็นทุกข์ จากปัจจัยที่มีการเปลี่ยนแปลงไป เมื่อมีแล้วไม่มีจึงเกิดความทุกข์เวียนรอบที่ 3 หมายถึงอนัตตา คือสิ่งที่ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ดังนั้นการเวียน 3 รอบเป็นการ ระลึกถึง กฎไตรลักษณ์ซึ่งเป็นธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมตรัสว่า การเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาดังนั้นคนที่อยู่จะต้องเข้มแข็งหมั่นทำความดีทำกุศล เมื่อล่วงลับไปแล้ว จะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี
    หลังจากการแห่เวียน 3 รอบเรียบร้อยทางพิธีกรจะกล่าวถึงชีวประวัติ คุณงามความดีของผู้ที่ล่วงลับรวมถึงประวัติส่วนตัวให้แขกที่มาในงานได้ระลึกนึกถึงผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นจะมีการทอดผ้าบังสุกุลทางเจ้าภาพจะเชิญแขกร่วมงานไว้อาลัยนำดอกไม้ธูปเทียนวางไว้เชิงตะกอนหรือ วางหน้าผ่านศพซึ่งแขกที่มาในงานจะมีการขอขมาไหว้ทำความเคารพก่อนที่จะวางดอกไม้จันทน์เพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิต จากนั้นทางเจ้าหน้าที่วัดจะทำการฌาปนกิจผู้ที่ล่วงลับไปแล้วตามประเพณี หลังจากเสร็จพิธีฌาปนกิจเรียบร้อยสามารถเก็บอัฐิโดยทางเจ้าภาพจะนิมนต์พระสงฆ์มาพิจารณาบังสุกุลอัฐิเมื่อทำพิธีเรียบร้อยทางเจ้าภาพจะเก็บอัฐิ ใส่โกศเพื่อไปทำพิธีลอยอังคารต่อไป ส่วนในงานฌาปนกิจศพจะมีการแจกของที่ระลึกงานศพให้กับแขกที่มาในงานโดยของชำร่วยสำหรับการไว้อาลัยแด่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
    มักเป็นของชำร่วยเกี่ยวกับความหมายที่มีคุณค่า ในปัจจุบันนี้ ของที่ระลึกงานศพ มีมากมายหลายอย่าง แต่มีไม่กี่อย่างที่จะสื่อความหมายดี เช่น ของชำร่วยสานบุญ เป็นการทำบุญส่งเสริมโครงการและมูลนิธิที่มีการจัดตั้งและจดทะเบียนชัดเจน เช่น

    • มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดให้ได้รับการดูแลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
    • ศิริราชมูลนิธิ ช่วยเหลือผู้ป่วยในการบริการทำตาเทียมหรือตาปลอม ให้มีโอกาสใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
    • กองทุนภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งจุฬา โดยโครงการนี้พัฒนาและวิจัยยารักษาโรคมะเร็งให้มีประสิทธิภาพ เพราะในสังคมปัจจุบันคนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งกันเยอะขึ้น เรียกได้ว่าเป็นโรคร้ายอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตคนไทยไปมากมาย ซึ่งโครงการนี้ช่วยผู้ป่วยมะเร็งให้ได้รับยาที่ดีมี คุณภาพในราคาที่ถูกลง
    • ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นการเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้เยาวชนได้ นำหลักธรรมะมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เผยแผ่ศาสนาให้เข้าถึงกลุ่มเยาวชนมากขึ้น
    • กองทุนประสาทศัลยศาสตร์วิวัฒน์ มูลนิธิรามาธิบดีฯ สนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยทางด้านระบบประสาท โดยกองทุนนี้จะพัฒนาบุคลากรและงานวิจัยให้ทันสมัยในการรักษาผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    • โครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติสภากาชาดไทย โครงการนี้เป็นการป้องกันและบรรเทาทุกข์รวมถึงฟื้นฟูในกรณีที่เกิดภัยพิบัติขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้น้ำท่วม รวมถึงช่วยเหลือผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคที่เกิดขึ้นใหม่ที่ประชาชนยังไม่ได้รับการรักษาพยาบาล
    • โครงการ Food For Good ดูแลด้านอาหารและโภชนาการที่มีคุณภาพให้เด็กๆเจริญเติบโตอย่างสมวัย
    • ชีวามิตร วิสาหกิจเพื่อสังคม สร้างความรู้ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
    • มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า เพื่อช่วยเหลือในการก่อสร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าและสนับสนุนเครื่องมือแพทย์ เพื่อรองรับผู้ป่วย

และนี่คือตัวอย่างโครงการและมูลนิธิที่คุณสามารถเลือกเพื่อนำเงินไปบริจาค ช่วยเหลือและพัฒนาสังคม เพื่อเป็นการทำบุญและอุทิศให้กับผู้เสียชีวิต โดยแจกการ์ดสานบุญเป็นของชำร่วยงานศพ มีขนาดเท่ากับที่คั่นหนังสือ เป็นการกระจายบุญให้แขกที่มาในงานศพ ได้ร่วมอนุโมทนาและทำบุญไปกับเจ้าภาพเพื่ออุทิศให้กับผู้วายชนม์ในครั้งนี้ด้วย

เหตุผลที่ควรเลือกของชำร่วยสานบุญเป็นของชำร่วยงานศพ

ในยุคปัจจุบันนี้มีการมอบ พวงหรีดกระจายบุญกุศลเพื่อไว้อาลัยผู้ที่จากไปมีหลากหลายประเภท เราไปดูกันดีกว่าว่ามีแบบไหนบ้าง

  1. แก้ปัญหาแขกที่มาในงานไม่ค่อยได้นำกลับไปใช้ แก้ปัญหาแขกที่มาในงานไม่ค่อยได้นำกลับไปใช้ บางคนทิ้งไว้ในงานศพ บางคนนำไปเก็บไว้ที่บ้านแต่ไม่ได้นำออกมาใช้จริงเมื่อถึงเวลาก็โละทิ้งกลายเป็นขยะ ทางเราเห็นปัญหานี้ และอยากลดขยะรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการเลือกของชำร่วยสานบุญเป็นของชำร่วย เพื่อลดมลพิษ และไม่เป็นภาระกับแขกที่มาในงาน รวมถึงเจ้าภาพด้วย
  2. เป็นของชำร่วยที่แขกมาในงานอิ่มบุญอิ่มใจกลับไป เนื่องจากว่าของที่ระลึกงานศพ ทางเจ้าภาพคงไม่สามารถเลือกของที่ถูกใจแขกทุกคนที่มาในงานได้ เพราะต่างคนต่างชื่นชอบไม่เหมือนกัน จะดีกว่าไหมหากเลือกเป็นของชำร่วยสานบุญ เป็นการนำเงินมาทำบุญให้กับมูลนิธิที่ทางเจ้าภาพเลือกไว้ โดยไม่เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ในการสั่งทำของชำร่วยที่อาจจะไม่ได้ถูกใจแขกทุกคน นอกจากนี้แขกที่มาในงานยังสามารถร่วมบุญไปกับทางเจ้าภาพเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้กับผู้วายชนม์ได้อีกด้วยเป็นการทำบุญ 2 ต่อที่ได้ทั้งเจ้าภาพและผู้ที่มาในงาน
  3. ช่วยแก้ปัญหาในกรณีที่เจ้าภาพไม่สามารถคำนวณแขกที่มาในงานได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆจากการเลือกของแจกงานศพ คือ สั่งของมาเกินจำนวนแขกที่มาในงาน ดังนั้นจึงเกิดปัญหาของเหลือนำไปทิ้งก็เสียดาย และกลายเป็นขยะหรือจะนำไปแจกคนอื่นบางคนก็ถือไม่ยอมรับของแจกในงานศพ ดังนั้นการเลือกของชำร่วยสานบุญ วิธีนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดปัญหาเหล่านี้ไปได้เยอะ
  4. ช่วยลดต้นทุนในการสั่งทำของชำร่วยงานฌาปนกิจ ซึ่งค่าใช้จ่ายในงานศพมีมากมายอยู่แล้ว ดังนั้นการลดค่าใช้จ่ายตรงนี้เพื่อที่จะนำเงินไปทำบุญจะดีกว่า อีกทั้งต้นทุนของของชำร่วยสานบุญยังถูกกว่าของชำร่วยทั่วไป
  5. ของชำร่วยสานบุญไม่จำกัดจำนวนขั้นต่ำในการสั่ง ดังนั้นเจ้าภาพสามารถเลือกได้ว่าต้องการ พิมพ์การ์ดจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งต่างจากการสั่งของชำร่วยทั่วไปที่มีการสั่งซื้อขั้นต่ำ ซึ่งจะเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีก ลองคำนวณดีๆของชำร่วยสานบุญ คุ้มกว่าเยอะ
  6. เงินบริจาคที่ทางเจ้าภาพและแขกที่มาในงานจะถูกนำไปมอบให้กับมูลนิธิที่ได้เลือกไว้อย่างโปร่งใส ชัดเจนตรงไปตรงมา และไม่มีข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเป็นประโยชน์กับทางมูลนิธิองค์กรโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือ ในหลายๆด้านเช่น ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการพัฒนาสังคม ด้านการส่งเสริมวัฒนธรรมและศาสนา ด้านสัตว์และสิ่งแวดล้อม ด้านเด็กและเยาวชน ได้บุญได้กุศลและเป็นการทำประโยชน์ต่อส่วนรวม ส่งผลบุญนี้อุทิศให้กับผู้เสียชีวิต เป็นกุศลและกุศโลบายที่ ได้ประโยชน์มากกว่าการแจกของชำร่วยงานศพทั่วๆไปเพราะแขกที่มาในงานบางคนไม่ได้ใช้ทิ้งขว้างทำให้เป็นขยะและมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
  7. เมื่อสั่งผลิตของชำร่วยสานบุญ ทางเจ้าภาพจะมีใบเสร็จการบริจาคและใบอนุโมทนาบัตร เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้
  8. เป็นการแสดงความขอบคุณแขกที่มาร่วมงานไว้อาลัยและเป็นสะพานบุญส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับผู้ที่มีจิตศรัทธาในการอยากร่วมทำบุญกับมูลนิธิที่เจ้าภาพเลือกไว้ได้

และนี่คือประโยชน์ดีๆที่คุณจะได้รับจากการเลือกของชำร่วยสานบุญมาเป็นของแจกงานศพ

วิธีสั่งของชำร่วยสานบุญทำอย่างไรบ้าง
  1. เข้าไปที่เว็บ https://care-nation.com หรือทางไลน์ @care-nation จากนั้นเลือกของชำร่วยแบบที่ทางเจ้าภาพต้องการ ซึ่งเรามีตัวอย่างให้เลือก
  2. ระบุจำนวนที่ต้องการสั่งพิมพ์การ์ดที่ระลึกงานฌาปนกิจ
  3. ระบุยอดบริจาค เป็นจำนวนเท่าไหร่
  4. เลือกมูลนิธิองค์กรโครงการที่ทางเจ้าภาพอยากจะร่วมบุญสร้างกุศล

และนี่คือเคล็ดลับดีๆที่เรานำมาฝากกันเกี่ยวกับการเลือกที่ระลึกงานฌาปนกิจอย่างไรให้ได้ประโยชน์ทั้งผู้ให้คือทางเจ้าภาพ และผู้รับคือแขกที่มาในงานได้ร่วมกันทำบุญและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ ให้กับผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วให้ท่านได้ร่วมอนุโมทนาบุญกับการจัดงานไว้อาลัยครั้งสุดท้าย และเป็นการบริจาคเงินที่ไม่สูญเปล่า มีใบเสร็จและใบอนุโมทนาบัตรในการลดหย่อนภาษีได้ อีกทั้งยังไม่ต้องสั่งซื้อของชำร่วยจำนวนมากมาให้เสียของ หากว่าแจกไม่หมดหรือแขกไม่ได้ใช้ ของชำร่วยสานบุญเป็นประโยชน์ดีๆที่ทางเจ้าควรเลือกเป็นของที่ระลึกในงานไว้อาลัยแด่ผู้ที่จากไป